พระภิกษุรูปหนึ่งเดินจงกรมอยู่ในป่าลึก ทันใดนั้น เสือโคร่งตัวใหญ่กระโจนออกมาจากพุ่มไม้ ดวงตาของมันจ้องตรงมาด้วยความดุดัน
ชาวบ้านที่แอบมองจากที่ไกลต่างคิดว่า “พระรูปนี้จะต้องหนีแน่!” แต่กลับกัน พระภิกษุเพียงยืนนิ่ง
ท่านมิได้หวาดกลัว มิได้วิ่งหนี เพียงมองเสืออย่างสงบ
เสือจ้องมองท่านครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ถอยห่างแล้วเดินจากไป
ชาวบ้านรีบเข้ามาถาม “หลวงพ่อไม่กลัวเสือหรือ?”
พระอาจารย์ยิ้มและกล่าวว่า “เหตุใดจึงต้องกลัว? ความกลัวเกิดจากความยึดติดในชีวิต แต่เมื่อเรายอมรับอนิจจัง เสือและข้า ก็มิได้แตกต่างกัน”
ชาวบ้านนิ่งไป และเริ่มเข้าใจว่า “ความกลัวที่แท้จริงอยู่ที่ใจ ไม่ใช่เสือ”
พุทธศาสนาสอนว่า “ความไม่หวั่นไหวไม่ได้หมายถึงการไม่มีความกลัว แต่คือการไม่ปล่อยให้ความกลัวควบคุมเรา”
ทำไมเราถึงกลัว?
ความกลัวเกิดจากอะไร? มันเกิดจาก “ความยึดติด” เรากลัวเพราะเรายึดมั่นในตัวตน เรากลัวการสูญเสีย กังวลต่ออนาคต
แต่พุทธศาสนาสอนว่า “ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไป” และเมื่อเรายอมรับสิ่งนี้ได้ ความกลัวจะค่อยๆ จางหาย
พระอาจารย์ไม่ได้ไม่มีความกลัว แต่ท่านไม่ปล่อยให้มันควบคุมสติของท่าน
3 วิธีเอาชนะความกลัวด้วยสติ
หากคุณต้องการเผชิญหน้ากับความกลัว ลองฝึกฝน 3 ข้อนี้:
- สังเกตความกลัวโดยไม่ต่อต้าน: แทนที่จะผลักไสความกลัว ลองรับรู้มันด้วยสติแล้วปล่อยให้มันผ่านไป
- เตือนตัวเองว่า “นี่คือความคิด ไม่ใช่ความจริง”: ความกลัวส่วนใหญ่มาจากจินตนาการ ไม่ใช่ความเป็นจริง
- ฝึกเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวทีละน้อย: หากคุณกลัวบางสิ่ง ลองค่อยๆ เผชิญหน้ามันด้วยความสงบ
จุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
วันนี้คุณสามารถยืนหยัดต่อหน้าความกลัวของตัวเอง และยอมรับมันด้วยใจที่มั่นคงได้หรือไม่?
“เมื่อเรายอมรับอนิจจัง ความกลัวก็สลายไป”
ข้อคิดสำคัญ:
- ความกลัวเกิดจากความยึดติด
- เมื่อเรารู้เท่าทันความกลัว เราจะไม่ถูกมันควบคุม
- ความไม่หวั่นไหวไม่ได้หมายถึงการไม่มีความกลัว แต่คือการไม่ปล่อยให้มันครอบงำจิตใจ
คำถามสำหรับคุณ: วันนี้คุณสามารถเผชิญหน้ากับความกลัว ด้วยใจที่สงบและมั่นคงได้หรือไม่?