แผ่เมตตา
สัพเพ สัตตา
อะเวรา โหนตุ
อัพยาปัชฌา โหนตุ
อะนีฆา โหนตุ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
บทกรุณา
สัพเพ สัตตา
สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ
บทมุทิตา
สัพเพ สัตตา
มา ลัทธะสัมปัตติโต วิมุจจันตุ
บทอุเบกขา
สัพเพ สัตตา
กัมมัสสะกา
กัมมะทายาทา
กัมมะโยนิ
กัมมะพันธุ
กัมมะปะฏิสะระณา
ยัง กัมมัง กะริสสันติ
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
ความหมายและรายละเอียดเพิ่มเติม
แผ่เมตตา: “สัพเพ สัตตา” หมายถึงสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ ทั้งเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งสื่อให้รู้ว่าทุกชีวิตมีความเกี่ยวพันกัน
บทกรุณา: “อะเวรา โหนตุ” แปลว่า จงเป็นผู้ที่ไม่มีเวรแก่กันและกัน และ “สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ” สื่อว่า จงพ้นจากทุกข์ที่เกิดขึ้นร่วมกัน
บทมุทิตา: “อัพยาปัชฌา โหนตุ” หมายถึง จงเป็นผู้ที่ไม่เบียดเบียนกัน และ “มา ลัทธะสัมปัตติโต วิมุจจันตุ” คือ ขอให้รักษาสมบัติของตนไว้ อย่าให้สูญเสียไป
บทอุเบกขา: กล่าวถึงความเข้าใจใน “กรรม” โดยแบ่งออกเป็นหลายด้าน ได้แก่
กัมมัสสะกา – ผู้มีกรรมเป็นของของตน
กัมมะทายาทา – ผู้รับผลของกรรม
กัมมะโยนิ – ผู้มีกรรมเป็นกำเนิด
กัมมะพันธุ – ผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
กัมมะปะฏิสะระณา – ผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
รวมไปถึงการระลึกถึงผลของการกระทำในชีวิต (“ยัง กัมมัง กะริสสันติ” และ “ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ”) เพื่อเตือนให้รู้ว่าทุกการกระทำมีผลตามมา